ทวงคืนใบหน้าเด็ก ฉีดไขมันหน้า เปลี่ยนสรรพนามจากป้าเป็นน้อง
ผมเชื่อว่าสาว ๆ หลายคนน่าจะเคยผ่านประสบการณ์การถูกเรียกด้วยสรรพนามว่า “ป้า” ซึ่งอาจเป็นสัญญานเตือนเกี่ยวกับปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าอย่าง ร่องแก้มลึก มีร่องใต้ตา หรือมีรอยเหี่ยวย่น ที่สามารถทำลายความมั่นใจของสาว ๆ มานัดต่อนัด จึงทำให้สาว ๆ เริ่มหันมาสนใจดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โดยการพึ่งเทคนิคทางการแพทย์อย่างการ “ ฉีดไขมันหน้า ” เพื่อเติมเต็มจุดบกพร่องดังกล่าวนั่นเองครับ
ฉีดไขมันหน้าคืออะไร?
การฉีดไขมัน(Fat Transfer) คือ การย้ายเซลล์บริเวณที่มีไขมันส่วนเกินมาก ๆ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าไขมันที่ไม่ต้องการ ไปผ่านกระบวนการพิเศษต่าง ๆ ทางการแพทย์ ก่อนนำกลับมาฉีดใหม่บริเวณที่มีปัญหาบนใบหน้า ซึ่งจะสามารถช่วยฟื้นฟู และซ่อมแซมสภาพผิวหน้าให้ดีขึ้น ดูอวบอิ่ม ริ้วรอยดูจางลงได้ทันทีครับ
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการดูดเอาเซลล์ไขมันส่วนเกิน แล้วเลือกไขมันที่มีคุณภาพ หรือคัดเฉพาะไขมันดี ก่อนนำไปฉีดเติมเต็มบนใบหน้าของคนไข้ จึงทำให้มีความธรรมชาติสูง ไม่มีสารแปลกปลอม และมีความปลอดภัยมาก ๆ ฉะนั้นสาว ๆ ก็ไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องอาการแพ้เลยครับ เพราะไม่ว่ายังไงไขมันส่วนเกินนั้นก็เคยอยู่ภายในร่างกายคนไข้มาก่อนนั่นเองครับ
สำหรับคนไข้ที่มีเกณฑ์อายุตั้งแต่ 30 ปีเป็นต้นไป มักจะเจอปัญหาเรื่องการยุบตัวของชั้นผิว หรือชั้นไขมัน ซึ่งส่งผลทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยต่าง ๆ จนใบหน้าดูโทรม แก้มตอบ และไม่ค่อยสดใส เหมือนตอนอายุยังน้อย จึงเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้น เพราะสามารถช่วยเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมาแข็งแรง และได้ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติเป็นที่พึ่งพอใจของคนไข้แน่นอนครับ
ส่วนคนไข้ที่ยังไม่แน่ใจว่าการหัตถการนี้เหมาะกับตัวเองหรือเปล่า ผมแนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโดยตรงก็ดีนะครับ เนื่องจากแพทย์จะสามารถประเมินโครงสร้าง และทำการวิเคราะห์ว่าใบหน้าของคนไข้นั้นสามารถทำได้หรือไม่นั่นเองครับ
สาเหตุที่ทำให้หน้าแก่จนต้องแก้ด้วยฉีดไขมันบริเวณใบหน้า
หน้าที่แก่ก่อนวัยอันควรอาจไม่ได้เกิดจากแค่เพียงอายุที่เพิ่มขึ้นนะครับ แต่อาจมาจากสาเหตุสำคัญอื่น ๆ อย่างเช่น ละเลยการดูแลตัวเอง พฤติกรรมที่ส่งผลต่อใบหน้า หรือภาวะที่เกิดจากโรคประจำตัว ซึ่งล้วนส่งผลให้กับใบหน้าได้ทั้งสิ้นครับ โดยวันนี้ผมจะขอมาแชร์ปัจจัยที่ทำให้หน้าแก่จนต้องแก้มีอะไรบ้างไปดูได้พร้อมกันเลยครับ
การบำรุงผิวพรรณ
การบำรุงผิวพรรณถือเป็นเรื่องปกติสำหรับสาว ๆ ที่ส่วนใหญ่น่าจะมีความพิถีพิถันในการเลือกผลิตภัฑณ์อย่างมากในการบำรุง ทั้งผิวกาย และใบหน้า เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพผิวให้มีความชุ่มฉ่ำ และป้องกันภาวะหน้าแห้ง แต่ก็มีกรณีที่สาว ๆ บางคนอาจหลงลืม หรือละเลยการบำรุงผิวพรรณ จนส่งผลกระทบต่อใบหน้าได้ จึงต้องอาศัยการฉีดไขมัน เพื่อปรับสภาพผิวหน้าให้กลับมากระชับเต่งตึง และได้ผิวสวยใสที่เป็นธรรมชาติแบบทันใจสาว ๆ อย่างแน่นอนครับ
ครีมกันแดด
จริง ๆ แล้วการบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับใบหน้า เพราะรังสียูวีจากแสงแดดมีอยู่ทุกที่ไม่ว่าจะกลางแจ้ง หรือแม้พื้นที่ในร่มจาก หลอดไฟ จอคอม โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น การทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับใบหน้าของสาว ๆ เพราะรังสียูวีนั้นสามารถส่งผลต่อใบหน้าได้โดยตรง เช่น ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย ทำให้เกิดฝ่าจุดด่างดำ และริ้วรอยต่าง ๆ ยิ่งหากเป็นสาวสายแอคทิวิตี้(activity) ที่ต้องออกกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย ๆ ผมขอแนะนำให้พกครีมทากันแดดที่มีค่าป้องกันยูวีมากกว่า 30 ติดตัวไว้ก็ดีครับ หรือต้องการความรวดเร็วในการคืนสภาพผิว การฉีดไขมันบริเวณใบหน้าก็ถือว่าตอบโจทย์อย่างมากครับ เนื่องจากสามารถกระตุ้นสภาพผิวให้กลับมาสดใสได้อีกครั้งนั่นเองครับ
ความเครียดสะสม
อารมณ์ และความรู้สึกต่าง ๆ สามารถทำให้ใบหน้าแก่ได้จริงหรือ เหตุผลนี้มีแนวโน้มที่สาว ๆ จะมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วเมื่ออารมณ์ไม่ดี มีความหงุดหงิด หรือภาวะครียดสะสมมาก ๆ จะส่งผลให้เซลล์ หรือฮอร์โมนคอร์ติซอล(Cortisol) ภายในร่างกายเกิดการกระตุ้นอย่างรุนแรงจนทำงานผิดปกติได้ จึงเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ใบหน้ามีริ้วรอย เหี่ยวย่น หน้าดูแก่กว่าวัยนั่นเองครับ ซึ่งทางแก้ง่าย ๆ ก็คือเลี่ยงความเครียด หรืออีกตัวเลือกที่ได้รับความนิยม คือการเข้ารักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการฉีดไขมัน เพราะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้โดยตรง พร้อมทำให้เซลล์ หรือฮอร์โมนเกิดความสมดุลได้อีกครั้งนั่นเองครับ
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าของสาว ๆ ดูมีอายุกว่าวัยอันควรจากการสังเกตมักพบว่ามาจากพฤติกรรม และกิจวัตรประจำวันเป็นส่วนใหญ่ครับ โดยการดูแล หรือบำรุงผิวหน้า อาจเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยชะลอปัจจัยต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น แต่ถ้าต้องการแก้ปัญหาจากต้นเหตุจริง ๆ ผมก็ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากแพทย์จะเข้าใจถึงปัญหาได้อย่างลึกซึ้งนั่นเองครับ
ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดไขมันบนใบหน้า
สำหรับหัตถการนี้ไม่ได้ทำได้เฉพาะสาว ๆ นะครับ แต่ทำได้ทุกเพศ และทุกช่วงวัยสำหรับคนไข้ที่พบความบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้า โดยการฉีดไขมันนั้น จะสามารถฉีดได้หลายตำแหน่งตามความเหมาะสม เช่น หน้าผาก ขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม รวมไปถึงฉีดเพื่อให้ผิวเต่งตึง ซึ่งคนไข้ที่เหมาะกับหัตถการดังกล่าวจะมีดังนี้ครับ
- คนไข้ที่มีปัญหาแก้มตอบ เพราะความผอม หรือกรรมพันธ์ ส่งผลทำให้ใบหน้าดูโทรม และมีอายุ จะสามารถแก้ไขได้โดยการฉีดไขมันบริเวณร่องแก้ม เพื่อปรับรูปหน้าให้เกิดความสมดุลมากขึ้นนั่นเองครับ
- คนไข้ที่อยากได้หน้าผากนูนเข้ากับโครงสร้างใบหน้า สามารถฉีดไขมันบริเวณหน้าผาก เพื่อเติมเต็มได้ครับ จะช่วยทำให้ใบหน้าดูมีมิติเข้ากับรูปทรงจมูก และปากมากขึ้นครับ
- คนไข้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ มีริ้วรอย จนทำให้ใบหน้าดูโทรม หรือแต่งหน้าลำบาก สามารถฉีดไขมันบริเวณใต้ตา เพื่อปรับสภาพสีผิวให้ดูกระจ่างใส ลดริ้วรอยใต้ร่องตาได้ครับ
- คนไข้ที่ไม่อยากศัลยกรรมโดยการผ่าตัดเติมแต่ง เพราะไม่อยากมีรอยแผล หรือกลัวไม่ธรรมชาติ เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ครับ เนื่องจากหัตถการนี้สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า แถมยังมีความปลอดภัยสูงมากอีกด้วยครับ เพราะใช้ไขมันส่วนเกินในร่างกายมาฉีดเติมเต็มจุดที่มีปัญหานั่นเองครับ
- คนไข้ที่มีปัญหาบนใบหน้า แต่ไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มอื่น ๆ เนื่องจากกลัวแพ้สารดังกล่าว สามารถทำหัตถการนี้ได้ครับ เพราะถึงยังไงไขมันก็เป็นเซลล์ที่มาจากร่างกายของคนไข้ ไม่ใช่สารแปลกปลอม หรือสารที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมา จึงทำให้มีความเสี่ยงที่จะแพ้ได้น้อยกว่า รวมถึงยังแก้ปัญหาได้ไม่ต่างกันครับ
- คนไข้ที่อยากให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม หรือต้องการปรับสภาพผิวพรรณ สามารถทำหัตถการดังกล่าวได้ครับ เพราะมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิวที่เสื่อม รวมถึงยังกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวดูกระจางใสแบบธรรมชาตินั่นเองครับ
ข้อดี – ข้อควรระวัง
ในส่วนของหัตถการฉีดไขมันบนใบหน้านั้น คนส่วนมากมักจะตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับผลลัพธ์ของข้อดี – ข้อควรระวัง ว่ามีผลต่างกันอย่างไร หรือก่อนทำหัตถการดังกล่าว ควรรู้อะไรก่อนไหม วันนี้ผมจะมาให้คำตอบถึงข้อดี รวมถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างดังนี้ครับ
ข้อดี
- ระหว่างทำหัตถการจะรู้สึกเจ็บน้อย และมีแผลที่ค่อนข้างเล็กหากไม่สังเกตดี ๆ หรืออาจไม่เห็นเลย รวมถึงไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน ๆ
- ไม่ต้องกลัวว่าจะมีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เพราะเป็นการใช้ไขมันของตัวเองในการทำหัตถการนี้ครับ
- ไขมันที่ฉีดสามารถอยู่ได้อย่างถาวร ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพไขมันของคนไข้ รวมถึงกระบวนการแยกไขมันก่อนฉีด
- จะสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพของผิวหน้า ให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นได้ครับ
- มีความปลอดภัยสูง ทำให้ไม่มีผลข้างเคียงจากสารสังเคราะห์ต่าง ๆ สามารถหมดกังวลจากการแพ้สารเติมเต็มได้เลย ซึ่งหลังฉีดจะทำให้ใบหน้าจะดูอ่อนเยาว์แบบธรรมชาติได้ทันทีครับ
ข้อควรระวัง
- สำหรับหัตถการนี้ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเหมาะกับคนไข้ที่ผอมสักเท่าไหร่ครับ เนื่องจากไขมันจะต้องนำมาฉีดเติมเต็มอาจมีไม่เพียงพอนั่นเองครับ
- ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ไขมันก็สามารถสลายตัวได้อยู่ครับ ซึ่งการสลายตัวของไขมันอาจมาจากหลากหลายปัจจัย แต่ยังไงก็ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายครับ เพียงอาจดูไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ดังนั้นจึงอาจจะต้องมีการมาทำซ้ำสอง เพื่อให้ใบหน้าเกิดความสมดุลที่มากขึ้นครับ
- เนื่องจากการมีความละเอียดอ่อนสูง จึงควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดีของคนไข้นั่นเองครับ
- การฉีดไขมันนั้นต้องอาศัยเทคนิคขั้นสูงของแพทย์ในการดูด ก่อนนำไปผ่านกระบวนการพิเศษ แล้วจึงนำมาฉีดได้ ทำให้อาจใช้ระยะเวลาที่นานกว่าการฉีดฟิลเลอร์ หรือหัตถการอื่น ๆ
ไขมันส่วนไหนที่นำมาฉีดบนใบหน้าได้บ้าง
การฉีดไขมันบนใบหน้าถือว่าเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถช่วยเติมเต็ม และฟื้นฟูสภาพผิวได้ดี แถมยังอยู่ได้แบบถาวร รวมถึงไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย เพราะไขมันที่แพทย์นำมาเติมบนใบหน้าล้วนแล้วมาจากไขมันส่วนต่าง ๆ ในร่างกายของคนไข้ครับ แบบนี้ใครละจะไม่ชอบ
แต่ทว่าพอได้ยินคำว่าใช้ไขมันของตัวเอง จึงทำให้คนไข้ส่วนใหญ่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการดูดไขมันมาฉีดหน้า หรืออาจมองว่าเป็นโอกาสที่ต้องการดูดไขมันจากบริเวณที่ไม่ต้องการไปฉีดบนใบหน้าได้ ซึ่งเป็นความเชื่อที่เข้าใจกันผิดนะครับ เนื่องจากขั้นตอนในการทำมีเทคนิค และเครื่องมือพิเศษที่แตกต่างกัน ทำให้ผลลัพธ์ไม่ใช่อย่างที่ทุกคิดแน่นอนครับ คนไข้จึงควรศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ในการฉีดไขมันบนใบหน้าให้เข้าใจก่อนตัดสินใจทำ หรือเข้ารับคำปรึกษา เพื่อให้แพทย์ได้แนะนำแนวทางอย่างถูกวิธีดีกว่านะครับ
โอเคหลังจากที่ผมอธิบายไปต่าง ๆ นา ๆ แล้วคราวนี้มาเข้าเรื่องของการฉีดไขมันต่อดีกว่าครับ โดยไขมันส่วนเกินที่เหมาะสำหรับนำมาใช้ในหัตถการจะมีอยู่ด้วยกัน 3 จุดดังนี้
ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันต้นขา ดูดไขมันสะโพก
เนื่องจากทั้งสามตำแหน่งที่พูดถึงนั้นมีปริมาณไขมันมากที่สุดในร่างกาย ซึ่งสามารถดูดไขมันออกมาได้แบบคงสภาพ และรักษาสเต็มเซลล์ที่จะนำมาฉีดหน้าได้ดี รวมถึงยังได้ไขมันที่เพียงพอสำหรับการทำหัตถการอีกด้วยครับ อย่างไรก็ตามมีอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คนไข้ควรรู้ คือ จุดที่สามารถฉีดไขมันบนใบหน้าได้นั้นมีส่วนไหนบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันครับ
- หน้าผาก สามารถฉีดได้หลายปัจจัย เช่น เสริมโหงวเฮ้ง ปรับให้เข้ากับสัดส่วนใบหน้า หรือช่วยเพิ่มมิติยิ่งขึ้น
- ใต้ตา จะเป็นการฉีดเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ อย่าง ใต้ตาหมองคล้ำ ตาลึกโบ๋ หรือช่วยปรับสมดุลรอบดวงตาครับ
- ใขมับ เป็นอีกหนึ่งจุดที่เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหา บริเวณขมับยุบตัวลง หรือโหนกแก้มดูเด่นมากเกินไป หลังฉีดจะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมูทมากขึ้น
- ร่องแก้ม จะเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึก แก้มตอบ หน้าดูโทรม หรือดูแก่กว่าวัยอันควร การฉีดไขมันจะช่วยทำให้หน้าดูเด็กลง เนื่องจากสามารถปรับสภาพพื้นผิวใบหน้าให้กระชับขึ้นนั่นเองครับ
- ริ้วรอยทั่วหน้า เป็นหนึ่งสิ่งที่แก้ไขได้ยากสำหรับอายุที่เพิ่มขึ้น หรือกิจวัตรต่าง ๆ ที่ส่งผลเสีย การฉีดไขมันนั้นจะช่วยลดริ้วรอยได้ทั่วใบหน้า เช่น รอยตีนกาบริเวณหางตา รอยย่นบนหน้าผาก และเลือนลางรอยแผลเป็นได้ครับ
ฉีดไขมันหน้า vs ฉีดฟิลเลอร์ต่างกันอย่างไร
สำหรับคนไข้ที่ต้องพบเจอกับปัญหาหนังหน้า เช่น หน้าซูบโทรม มีริ้วรอย หรือว่าดูแก่กว่าวัยอันควร จะสามารถแก้ปัญหาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ หรือการฉีดไขมันได้ครับ ซึ่งทั้งสองหัตถการนั้นสามารถให้ผลลัพธ์ไปในแนวทางเดียวกัน แต่ก็มีสิ่งสำคัญที่แตกต่างกันอยู่ดังนี้ครับ
ฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (hyaluronic acid) โดยสามารถนำเอามาฉีดบริเวณใบหน้าได้ ซึ่งจะช่วยทำให้ใบหน้าดูกระชับ เต่งตึงมากขึ้น แถมไม่มีอาการบวมช้ำหลังฉีด และสลายไปได้เองตามธรรมชาติ อยู่ได้นานตั้งแต่ 6 – 10 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่นำมาใช้ ซึ่งมีความปลอดภัยต่อร่างกาย แต่จะให้ผลลัพธ์ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่สูง รวมไปถึงคนไข้ที่มีอาการแพ้สารดังกล่าวจะไม่สามารถฉีดได้
ฉีดไขมัน
การฉีดไขมัน จะมีความแตกต่างจากฟิลเลอร์ เพราะไม่ได้ใช้สารเติมเต็มชนิดอื่น แต่เป็นการนำเอาเซลล์ไขมันจากร่างกาย ไปผ่านกระบวนการพิเศษก่อนนำมาฉีดบนใบหน้า เนื่องจากเซลล์ไขมันที่นำมาใช้ถูกดูดมาจากร่างกาย จึงทำให้ไขมันผสานกันได้เป็นอย่างดี แต่จะมีขั้นตอนที่ใช้เวลานานกว่าการฉีดฟิลเลอร์ และมีโอกาสที่ไขมันนั้นจะสลายไปได้เองเช่นกัน ส่วนผลลัพธ์หลังฉีดจะทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียน มีวอลุ่มเพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งยังสามารถฉีดได้หลายบริเวณตามความต้องการของคนไข้อีกด้วยครับ
ถึงอย่างไรก็ตามทั้งสองหัตถการก็มีความจำเป็นที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์ของการรักษาต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการประเมิน ว่าคนไข้นั้นเหมาะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ หรือฉีดไขมันมากกว่ากัน เพราะความพึงพอใจหลังทำถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนไข้นั่นเองครับ
การเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันหน้า
การฉีดไขมันบนใบหน้าถือว่าเป็นกระแสที่กำลังได้รับความนิยมค่อนข้างสูง สำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มใบหน้าที่มีปัญหา ซึ่งหากคนไข้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม หรือสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เลยครับ โดยก่อนถึงกำหนดวันนัดคนไข้จะต้องมีการเตรียมตัว และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ดังนี้
- งดการรับประทานอาหารเสริม ต่าง ๆ เช่น วิตามินเอ อี ซี สมุนไพร หรือยาละลายลิ่มเลือด อย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ก่อนฉีดไขมัน เนื่องจากอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้า และทำให้เกิดรอยฟกช้ำได้ง่ายครับ
- งดการสูบบุหรี่ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อเลี่ยงภาวะติดเชื้อ และแผลหายช้ากว่าปกติ
- ไม่ควรให้คนไข้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันสูง หรือไทยรอยด์ เข้ารับการฉีดไขมัน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง
- งดรับประทานอาหารประมาณ 6 – 8 ชั่วโมงก่อนการฉีด หากอยู่ในกรณีที่ต้องวางยาสลบ เพราะอาจทำให้คนไข้มีอาการสำลักอาหารระหว่างฉีดหน้าอยู่ได้ครับ
- งดการทาครีม หรือแต่งหน้ามาในวันนัดฉีดไขมันทุกกรณี เนื่องจากอาจทำให้บริเวณที่ฉีดติดเชื้อได้ง่ายครับ
- แนะนำให้อาบน้ำ สระผมมาให้เรียบร้อยในวัดนัดฉีดไขมัน เพราะหลังจากเสร็จแล้วจะต้องเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณที่ฉีดมาครับ
- แนะนำให้ส่วมเสื้อผ้า ที่ถอดหรือใส่ได้สะดวกสบาย เพื่อป้องกันไม่ให้โดนจุดสำคัญหลังฉีดเสร็จครับ
ขั้นตอนการฉีดมีอะไรบ้าง
แล้วก็มาถึงในส่วนของขั้นตอนการฉีดไขมันแล้วนะครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วขั้นตอนในการฉีดไขมันนั้นต้องที่ละสถานพยาบาลจะไม่เหมือนกัน อาจมีเทคโนโลยี และเทคนิคทางการแพทย์เฉพาะบุคคล เพราะแต่ละคนย่อมมีกระบวนการรักษาที่แตกต่างกัน ดังนั้นผมจึงขออนุญาตอธิบายขั้นตอนในการฉีดไขมันแบบพอสังเขป เพื่อให้คนไข้ได้ทำความเข้าใจในเบื้องต้น ถ้าพร้อมแล้วไปดูพร้อมกันได้เลยครับ
- แพทย์จะทำการประเมินโครงสร้างปัญหาบนใบหน้าของคนไข้ และทำการออกแบบแต่ละจุดที่มีความบกพร่อง พร้อมอิธบายรายละเอียดต่าง ๆ ให้ชัดเจน เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจสำหรับคนไข้
- แพทย์จะทำการเลือกบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินเยอะ ก่อนทำการดูดออกมา เพื่อให้ได้ปริมาณไขมันที่เพียงพอ และมีคุณภาพ เช่น ต้นขา หน้าท้อง และสะโพก ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของรูปร่างคนไข้
- หลังจากนั้นแพทย์จะฉีดยาชาไปยังบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 0.3 -0.5 เซนติเมตร และทำการดูดไขมันออกมา ก่อนนำไปผ่านกระบวนการพิเศษโดยปั่นคัดแยกเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพดี และมีชีวิตเท่านั้น แล้วกรองอนุภาคเซลล์ไขมัน เพื่อให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ต้องการฉีดเติมเต็มใบหน้า
- แพทย์จะเริ่มทำการปลูกถ่ายเซลล์ไขมันไปยังบริเวณที่มีปัญหาบนใบหน้า โดยใช้เทคนิคเฉพาะ ซึ่งส่งจะผลให้ไขมันจัดเรียงได้อย่างเป็นระเบียบดูธรรมชาติ
หลังฉีดเสร็จแล้วคนไข้จะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีครับ ซึ่งผมขอแนะนำให้คนไข้ศึกษาข้อมูลการฉีดไขมันให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ และควรเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย และลดโอกาสเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตนะครับ
การดูแลหลังฉีดทำอย่างไร
หลังจากคนไข้ผ่านการฉีดไขมันบนใบหน้ามาแล้ว หากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้แบบติดทนนานอย่างถาวร คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยวิธีการดูแลมีอะไรบ้างไปดูกันครับ
- หากใบหน้ามีอาการบวมมาก ๆ สามารถใช้การประคบเย็นได้ครับ โดยประคบเบา ๆ ประมาณ 2 – 3 ครั้ง/วัน จะสามารถลดอาการบวมลงได้ครับ
- ในช่วง 3 วันแรกหลังฉีดไขมันแนะนำให้หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนต่าง ๆ บริเวณใบหน้าครับ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจำพวก ชาบู หมูกะทะ หรือใกล้กับความร้อน เนื่องจากจะส่งผลให้บริเวณที่ฉีดไขมันมานั้นสลายได้เร็วขึ้นครับ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบหรี่ประมาณ 1 เดือน หลังฉีดไขมัน เพราะจะส่งผลให้แผลหายได้ช้า รวมถึงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายครับ
- หลีกเลี่ยงการจับ กด หรือนวดบริเวณใบหน้าอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนครับ
- แนะนำให้นอนหมอนสูงกว่าปกติ ประมาณ 2 – 3 วัน หลังฉีดไขมันมา เพราะจะสามารถลดอาการบวมลงได้ครับ
- งดการออกกำลังกายหนัก ๆ หรือทำกิจวัตรต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อใบหน้า เพราะจึงทำให้เลือดเกิดการสูบฉีด จนส่งผลกระทบสู่ใบหน้า ซึ่งจะทำให้ไขมันที่ฉีดมานั้นสลายไปได้ไวครับ
- งดการทาครีม หรือโลชั่นต่าง ๆ บนใบหน้า อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ง่ายครับ
- ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น ผิวหน้าแดงมาก ๆ หรือแสบคัน แนะนำให้รีบกลับมาพบแพทย์โดยด่วนครับ
- ควรทานยา และมาตามนัดหมายของแพทย์ทุกครั้ง เพื่อป้องกันภาวะติดเชื้อ หรือความผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นครับ
ฉีดไขมันแล้วหน้าพังไหม อันตรายหรือเปล่า
การฉีดไขมันหน้านั้นจะเหมาะสำหรับปรับรูปหน้า หรือแก้ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ เนื่องจากไม่มีสารแปลกปลอม หรือสารสังเคราะห์เข้าสู่ร่างกาย จึงทำให้ไม่มีผลข้างเคียงอย่างหน้าพัง รวมถึงไม่มีอันตรายต่อร่างกายแน่นอนครับ เพราะเป็นเซลล์ไขมันที่นำมาจากร่างกายของตัวคนไข้เองครับ
ส่วนเหตุผลที่คนไข้กำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหน้าพัง หรืออันตรายต่าง ๆ อาจมาจากสาเหตุเหล่านี้
การดูดไขมัน
การดูดไขมัน ที่ต้องนำเซลล์ออกมาใช้สำหรับฉีดหน้านั้น จะมีความแตกต่างกับการดูดไขมันเพื่อลดสัดส่วน เนื่องจากการดูดไขมันหน้าต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะทางจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งต้องเอาเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพ และปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น จึงต้องมีความระมัดระวังสูงอย่างมาก ทำให้อาจส่งผลกระทบต่าง ๆ ได้ง่าย ต่างจากการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยแบบการดูดไขมันกระชับสัดส่วนครับ
ช่วงปั่นคัดแยกเซลล์ไขมัน
ไขมันที่ดูดออกมานั้นยังไม่ใช้เซลล์ที่บริสุทธิ์นะครับ เนื่องจากอาจมีส่วนผสมจากน้ำ ยาชา หรือเลือดปนอยู่ด้วย จึงต้องนำเอาไขมันไปปั่นเพื่อคัดแยกเซลล์ไขมัน โดยแพทย์จะเลือกเฉพาะเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพ ช่วงการปั่นคัดแยกเซลล์ ถึงต้องมีมาตรฐาน และใช้เวลาในการปั่นให้เหมาะสมครับ
พฤติกรรมส่วนบุคคล
ปัจจัยที่สำคัญสำหรับการฉีดไขมันแล้วหน้าพัง ส่วนใหญ่จะมาจากการปฏิบัติ หรือวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด รวมถึงโรคประจำตัวของคนไข้ ก็สามารถส่งผลต่อการฉีดไขมันได้ทั้งหมดนะครับ หากอย่างให้การฉีดไขมันอยู่ติดทนนาน ก็ควรปรับพฤติกรรมที่ส่งผลต่อใบหน้าด้วยนะครับ
ตอบคำถามของปัญหาหลังฉีด
ช่วงตอบคำถามปัญหาคาใจเกี่ยวกับการฉีดไขมัน ซึ่งผมจะมาให้คำตอบพร้อมข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ที่คนไข้ส่วนใหญ่เป็นกังวล ถึงปัจจัยที่จะตามมาหลังฉีดไขมัน โดยมีหัวข้อไหนบ้างที่ตรงใจคนไข้ไปดูกันครับ
เอาไขมันคนอื่นมาฉีดได้ไหม ?
ขอตอบตามความจริงเลยนะครับว่า “ไม่ได้เด็ดขาด” เพราะการฉีดไขมันเพื่อเติมเต็มนั้น ไม่สามารถนำเอาสเต็มเซลล์ หรือไขมันของคนอื่นมาฉีดได้ครับ เนื่องจากร่างกายของคนเราจะมีสารที่เรียกว่า แอนติบอดี้ ซึ่งจะทำการต่อต้านสาร หรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ จากภายนอกก่อนเข้าสู่ร่างกาย รวมถึงอาจมีอาการแพ้ และอันตรายเกิดขึ้นได้ครับ
ฉีดไขมันนานไหม ?
การฉีดไขมันจะมีการเตรียมหลายขั้นตอน เช่น การดูดไขมัน การปั่นแยกเซลล์ รวมไปถึงการวางแผนประเมิน รวมถึงเทคนิค และเครื่องมือต่าง ๆ ที่แพทย์นำมาใช้ จึงอาจทำให้ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงต่อเคสครับ เพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง และปรับรูปหน้าออกมาได้อย่างสมบูรณ์ คนไข้ควรมีเวลาสำหรับการรักษาเผื่อไว้ด้วยนะครับ
ฉีดไขมันอยู่ได้นานแค่ไหน ?
จริง ๆ แล้วไขมันที่นำมาฉีดหน้านั้น สามารถอยู่ได้ถาวร หรือตลอดชีวิตเลยครับ เพราะเป็นเซลล์ไขมันเดียวกันกับร่างกายคนไข้ เพียงไปผ่านการปั่นแยกเซลล์ให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น แต่ก็มีโอกาสที่จะสลายไปได้เองเช่นกัน โดยอาจมาจากวิธีการดูแลรักษาหลังฉีดเสร็จ หรืออาจมาจากภาวะน้ำหนักขึ้นลงของคนไข้ หากคนไข้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ก็มันทำให้ไขมันดูฟูยิ่งขึ้น แต่กรณีที่ผอมลงก็อาจส่งผลให้ไขมันค่อย ๆ สลายไปนั่นเองครับ ฉะนั้นจึงควรดูแลรักษาอย่างพอดี เพื่อรักษาไว้ให้อยู่คงนานนะครับ
สรุป
เพียงเท่านี้คนไข้ก็คงจะเห็นแล้วใช่มั้ยครับ ว่าการฉีดไขมันบนใบหน้านั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนเข้าใจ รวมถึงไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย แต่เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยเสริมความมั่นใจ ปลอดภัยไร้กังวล ซึ่งถ้าคนไข้ไม่อยากถูกเรียกด้วยสพรรนามว่าป้า ก็ลองมาฉีดไขมันหน้ากับทางโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซได้นะครับ
Post Views: 46