สลายไขมันด้วยความเย็น ยังจำเป็นอยู่ไหม

สลายไขมันด้วยความเย็น ยังจำเป็นอยู่ไหม

ไขมันสะสม หรือไขมันส่วนเกินบริเวณจุดต่าง ๆ บนร่างกายน่าจะเป็นปัญหาของหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ หลายคนอย่างมากในปัจจุบัน การกำจัดไขมันโดยการออกกำลังกาย หรือคุมอาหาร จึงอาจไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับการลดสัดส่วนให้ดูกระชับ ทำให้หนุ่มสาวเริ่มหันมาพึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างการ “สลายไขมันด้วยความเย็น ” ที่ให้ผลลัพธ์เทียบเท่าการผ่าตัดเลยทีเดียว

การลดไขมันด้วยความเย็น คือ เทคโนโลยีสลายไขมันส่วนเกินโดยการนำนวัตกรรมคลื่นความเย็นมาช่วยกำจัดไขมันออกจากร่างกายของคนไข้ โดยส่งผ่านความเย็นระดับ -11 ถึง -13  องศาเซลเซียส แบบคงที่ลงไปใต้ชั้นผิวหนังสู่ชั้นไขมันทำให้เซลล์ไขมันแข็งตัว และค่อย ๆ สลายตัวไป ก่อนที่จะถูกขับออกจากร่างกายตามกลไกลธรรมชาติ หากพร้อมแล้วก็มาดูกันเลยว่าเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นมีกระบวนการอย่างไร

เครื่องสลายไขมัน Coolsculpting

การสลายไขมันด้วยความเย็น เทคโนโลยี CoolSculpting คือ เครื่องทำลายเซลล์ไขมัน ซึ่งเป็นกระบวนการใช้ความเย็นเข้าไปดึงอุณภูมิความร้อนออกจากชั้นผิวหนังของคนไข้ โดยส่งความเย็นในระดับจุดเยือกแข็ง – 11 ถึง – 13 องศาเซลเซียส ซึ่งธรรมชาติของเซลล์ไขมันจะไม่ทนต่อความเย็น เมื่อได้รับความเย็นจัดในระยะเวลาหนึ่งเซลล์ไขมันก็จะค่อย ๆ ถูกกำจัดออก และขับออกผ่านระบบหมุนเวียนตามธรรมชาติ ทำให้การสลายไขมันด้วยความเย็น  CoolSculpting   มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเจาะผิวหนัง เพื่อดูดไขมันออกมาทำให้ไม่เกิดรอยแผล หลังทำเสร็จก็ไม่มีอาการเจ็บปวด ไม่ต้องพักฟื้นเหมือนดูดไขมัน ทำเสร็จแล้วก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติค่ะ

อะไรคือการสลายไขมันด้วยความเย็น

อะไรคือการสลายไขมันด้วยความเย็น

สลายเซลล์ไขมันด้วยความเย็น ( CoolSculpting ) คือ การนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่เป็นเครื่องกำจัดเซลล์ไขมันนำมาผ่านกระบวนการ ไครโอโลโปไลซิส ( Cryolipolysis ) ซึ่งเป็นการใช้ความเย็นเพื่อไปดึงอุณหภูมิความร้อนออกจากชั้นผิวแล้วแทนที่ด้วยความเย็น  เพื่อให้ไขมันเกินความเย็นจนเปลี่ยนสภาพกลายเป็นผลึกน้ำแข็ง ก่อนจะสลายตัวไปได้เองตามระบบธรรมชาติของร่างกาย 

โดยไขมันเป็นเซลล์ที่ไม่สามารถตายไปได้จากร่างกาย แม้ว่าจะควบคุมอาหาร หรืออกกำลังกายอย่างหนัก มากสุดก็ทำได้เพียงลดขนาดของเซลล์ไขมันลง นั้นหมายความว่าถ้าเกิดหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ ทานอาหารเพิ่มขึ้น และออกกำลังกายน้อยลงเซลล์ไขมันในร่างกายก็จะขยายตัว หรือพองตัวได้ เอาง่าย ๆ คือทำให้กลับมาอ้วนเหมือนเดิมนั่นเอง ดังนั้นแพทย์จึงได้แนะนำการสลายไขมันด้วยความเย็น ที่สามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้อย่างถาวร

ถึงอย่างไรก็ตามทางการแพทย์ก็อาจจะมีเทคนิค และวิธีการกำจัดเซลล์ไขมันที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การดูดไขมัน, การฉีดสลายไขมัน, หรือสลายไขมันด้วยเครื่องทำความเย็น ก็ต่างเป็นตัวเลือกที่แพทย์ให้การยอมรับทั้งสิ้น  เพราะฉะนั้นหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไขมันส่วนเกิน จึงควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากแพทย์จะสามารถประเมิน และวิเคราะห์ปัญหาดังกล่าวได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน รวมถึงยังช่วยเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมให้กับหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ ได้อย่างตรงจุดครับ

สาเหตุที่ต้องกำจัดเซลล์ไขมันคืออะไร

สาเหตุที่ต้องกำจัดเซลล์ไขมันคืออะไร

สำหรับสาเหตุสำคัญที่ควรกำจัดเซลล์ไขมันนั้น อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เพราะปริมาณไขมันส่วนเกินที่มากเกินไป สามารถส่งผลเสียได้มากกว่าที่คิด ซึ่งภายในร่างกายของมนุษย์จะแบ่งไขมันส่วนเกินออกเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ แต่ละชนิดก็ส่งผลต่อร่างกายได้ต่างกันไปดังนี้

  • ไขมันใต้ผิวหนัง ( Subcutaneous Fat )

จะป็นไขมันสะสมอยู่ระหว่างชั้นผิวหนัง และกล้ามเนื้อตามแนวร่างกายส่วนต่าง ๆ เช่น หน้าท้อง, ต้นขา, ใบหน้า, รวมถึงคอ ซึ่งไขมันจะส่งผลต่อรูปร่าง และโครงสร้างทั้งหมด โดยการสังเกตคร่าว ๆ ไขมันชนิดนี้อาจดูได้จากขนาดรอบเอว อย่างผู้หญิงควรระมัดระวังไม่ให้รอบเอวเกิน 35 นิ้ว และผู้ชายควรมีขนาดรอบเอวไม่เกิน 40 นิ้ว หากเกินจากที่ได้กล่าวไว้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพได้ครับ 

  • ไขมันในช่องท้อง ( Visceral Fat )

จะเป็นไขมันสะสมอยู่ภายในอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ, ปอด, ตับ, หรือลำไส้ ซึ่งไขมันชนิดนี้สามารถส่งผลต่อสุขภาพได้มากกว่าไขมันใต้ผิวหนัง เพราะจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงของโรคเรื้อรัง และร้ายแรง อย่าง โรคอ้วน ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคตับ โรคมะเร็ง และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อีกมากมายครับ

ดังนั้นไขมันส่วนเกินไม่ว่าจะชนิด หรืออยู่บริเวณใดก็ตาม สามารถส่งผลต่อสุขภาพได้ทั้งทางตรง และทางอ้อม รวมถึงอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน การลดไขมันส่วนเกินให้กลับมาอยู่ในระดับปกติ จึงช่วยลดโอกาสเสี่ยงของปัญหาสุขภาพเหล่านั้นได้ แหละนี้ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมการกำจัดไขมันส่วนเกินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญครับ

ใครบ้างที่เหมาะกับการสลายไขมันด้วยความเย็น

ข้อดีการสลายไขมันด้วยความเย็น

  • คนไข้ไม่เกิดรอยแผลเหมือนการผ่าตัด หรือการดูดไขมัน
  • คนไข้ไม่ต้องใช่ยาชา หรือวางยาสลบระหว่างเข้ารับการรักษา
  • คนไข้ไม่ต้องการพักฟื้นเป็นเวลานาน ๆ 
  • คนไข้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงเร็ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้บริการ และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นภายใน  2 – 3 เดือนหลังการทำค่ะ

ใครบ้างที่เหมาะกับการสลายไขมันด้วยความเย็น

การเข้ารับการรักษาไขมันส่วนเกินด้วยความเย็น เป็นเทคนิคที่อาจเหมาะกับหนุ่มสาว เฉพาะบางคนนะครับ เพราะยังมีข้อแม้ในปัจจัยต่าง ๆ อยู่นั่นเอง โดยวันนี้ผมจะมาขอพูดถึงข้อมูลว่ามีใครบ้างที่เหมาะกับหัตถการดังนี้ 

  • หนุ่มสาวที่ต้องการลดไขมันเฉพาะสัดส่วน เช่น บริเวณหน้าท้อง สะโพก ต้นแขน เอว ต้นขา เป็นต้น 
  • หนุ่มสาวที่ออกกำลังกาย หรือคุมอาหารแต่ไม่เห็นผล สามารถเข้ามารับการสลายเซลล์ไขมันด้วยความเย็นได้ครับ 
  • หนุ่มสาวที่ต้องการสลายไขมันแบบถาวร โดยไม่ต้องการเข้ารับการผ่าตัด
  • หนุ่มสาวที่มีค่า ( BMI <35 ) หรือมีไขมันในระดับปานกลาง จะสามารถเข้าสลายไขมันด้วยเครื่องความเย็น เพื่อแก้ไขสัดส่วนได้ครับ 
  • หนุ่มสาวที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือดูดไขมัน จะสามารถสลายเซลล์ไขมันด้วยความเย็น(CoolSculpting ) ได้ครับ 
  • หนุ่มสาวที่ต้องการกำจัดไขมัน แต่ไม่อยากพักฟื้น หรือไม่อยากมีรอยแผลเป็น สามารถกำจัดไขมันด้วยความเย็นได้ครับ
  • หนุ่มสาวที่มีอาจการหวาดระแวง วิตกกังวลได้ง่าย หรือเป็นโรคแพนิค อาจไม่เหมาะกับการกำจัดไขมันด้วยความเย็นครับ

การดูดไขมัน vs การสลายไขมันด้วยความเย็นต่างกันอย่างไร

การดูดไขมัน vs การสลายไขมันด้วยความเย็นต่างกันอย่างไร

เนื่องจากการกำจัดไขมันส่วนเกินนั้น มีตัวเลือกให้หนุ่มสาวได้ตัดสินใจอยู่มากมาย จึงอาจทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า แบบไหนดีกว่ากันแน่ ?

โดยมีหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่าง การดูดไขมัน และการสลายไขมันด้วยระบบความเย็น หนุ่มสาวจึงต้องทำการปรับความเข้าใจกันยกใหญ่ เพราะทั้งสองหัตถการนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีไปในแนวทางเดียวกันนั่นเอง ซึ่งทั้งสองหัตถการจะมีความแตกต่างกันอย่างไรไปดูได้พร้อมกันเลยครับ 

  • การดูดไขมัน ( Liposcution )

การดูดไขมันเป็นเทคนิคการศัลยกรรมรูปร่าง หรือโครงสร้างตามต้องการ เพื่อนำไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ไม่ต้องการดูดเอาออกมา ซึ่งจะช่วยลดปริมาณไขมันที่สะสมอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ ได้ เนื่องจากเป็นไขมันที่สามารถสลายได้ยาก แม้ว่าจะคุมอาหาร หรือออกกำลังกายก็ตามโดยบริเวณที่แพทย์แนะนำให้ดูดไขมัน เช่น หน้าท้อง, สะโพก, ต้นขา, ก้น, แขน, หรือคอ เป็นต้น

การดูดไขมัน อาจช่วยให้ไขมันออกไปจากร่างกายได้ประมาณ 60 % ของไขมันทั้งหมด ถึงอย่างไรก็ตามเซลล์ไขมันเหล่านี้สามารถกลับมาได้อีก แต่ไม่กลับมาถึง 100 % เท่าเดิม การดูดไขมันจึงไม่ใช่การกำจัดไขมันแบบถาวร แต่ช่วยควบคุม หรือทำให้เซลล์ไขมันกลับมาได้ยากขึ้น หรือรูปร่างอ้วนขึ้นได้ยากกว่าปกตินั่นเอง 

ส่วนสิ่งที่สำคัญที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอหลังจากดูดไขมัน คือ ต้องปรับพฤติกรรม หรือเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมตามความต้องการของร่างกาย รวมถึงออกกำลังกายควบคู่ไปพร้อม ๆ กัน หากดูแลไม่ดี หรือในกรณีที่เซลล์ไขมันเกิดการสะสมใหม่ อาจส่งผลทำให้ไขมันกลับมาได้ภายในระยะเวลาประมาณ 2 ปี แต่หากคนไข้ดูแลตัวเองได้ดี ผลลัพธ์ของการดูดไขมันก็จะอยู่ได้เกือบจะถาวรเลยครับ 

  • การสลายเซลล์ไขมันด้วยความเย็น ( Coolsculpting )

การสลายไขมันด้วยความเย็น จะเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินโดยใช้ความเย็น สามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนังบริเวณต่าง ๆ ตามต้องการได้ถึง 25 % – 30 % ต่อการทำเพียง 1  ครั้ง จึงกลายเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับขจัดปัญหาไขมันส่วนเกินที่ไม่ตอบสนองต่อการควบคุมอาหาร หรือการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ อีกทั้งยังไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีรอยแผลเป็น ซึ่งวิธีการกำจัดไขมันด้วยความเย็นนั้น จะเป็นการปล่อยความเย็นเข้าสู่ผิวหนัง เฉพาะจุดที่เราต้องการที่จะสลายไขมัน โดยไม่ทำลายผิวหนัง และโครงสร้างอื่น ๆ จากนั้นเซลล์เม็ดเลือดขาวในร่างกายจะทำการกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายออกไปทางระบบภายในร่างกายแบบธรรมชาติ เช่น ปัสสาวะ ขับถ่าย เหงื่อ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนัง และเนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียงครับ

สลายไขมันด้วยความเย็น เป็นการลดน้ำหนักไหม

สลายไขมันด้วยความเย็นเป็นการลดน้ำหนักไหม?

ต้องขอเปิดใจเพื่อคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการกำจัดไขมันด้วยความเย็นให้ทราบก่อนเลย ว่าการสลายไขมันด้วยเทคโนโลยี CoolSculpting ไม่ใช่การลดน้ำหนักนะครับ เนื่องจากหนุ่มสาวที่เข้ามารับบริการอาจไม่เห็นความแตกต่างของตัวเลขน้ำหนักหลังเข้าใช้บริการนั่นเอง 

เพราะว่าเทคโนโลยีดังกล่าว เป็นนวัตกรรมสำหรับลดสัดส่วนของร่างกายด้วยกระบวนการสลายไขมันเพื่อกระชับรูปร่างบริเวณที่ต้องการ นั้นหมายความว่าไม่สามารถลดไขมันในช่องท้องได้ เนื่องจากเป็นไขมันที่อยู่ใต้อวัยวะภายใน และกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ

แต่ว่าไขมันจะสามารถลดได้จากการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง หรือควบคุมการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเท่านั้น อย่างไรก็ตามในกรณีที่คนไข้ที่เข้ารับการรักษาด้วยเทคโนโลยี CoolSculpting อาจจะสังเกตว่า น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากเซลล์ไขมันเดิมภายในร่างกายเกิดการขยายตัวออกหลังจากเซลล์ไขมันส่วนเกินถูกกำจัดออกไปนั่นเอง ไม่ต้องวิตกกังวลไปนะครับ เท่านี้ก็คงพอเข้าใจแล้วใช่มั้ยครับว่า การสลายไขมันด้วยความเย็นนั้น ไม่ใช่การลดน้ำหนักอย่างที่หลายคนเข้าใจครับ

ผลข้างเคียงจากการสลายไขมันด้วยความเย็นมีอะไรบ้าง

ผลข้างเคียงจากการสลายไขมันด้วยความเย็นมีอะไรบ้าง

การสลายเซลล์ไขมันด้วยความเย็น มีผลข้างเคียงหรือไม่ ? อันตรายไหม ? สิ่งเหล่านี้อาจเป็นคำถามที่ค้างคาใจของหนุ่มสาวอีกหลายคน ซึ่งในบทความนี้ผมจะมาบออธิบายเพิ่มเติมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำด้วยเทคโนโลยี Coolsculpting หรือสลายไขมันด้วยความเย็น ว่ามีผลข้างเคียงอะไรบ้างดังนี้

  • ผลข้างเคียงหลังจากสลายไขมันด้วยความเย็น
  1. ผิวเขียวฟกช้ำ บวมแดง 
  1. ผิวซีดชั่วคราว 
  1. ผิวรู้สึกแสบคัน 
  1. กดบริเวณผิวแล้วเจ็บ หรือตึง
  2. มีอาการเป็นตะคริว

ผลข้างเคียงที่ส่งผลอันตราย สลายไขมันด้วยความเย็น

  • ผลข้างเคียงที่ส่งผลอันตราย
  1. ผิวหนังไหม้จากความเย็น

การที่ผิวหนังไหม้จากความเย็น อาจเกิดจากการใช้เครื่องเลียนแบบ หรือไม่ใช่เครื่อง coolsculpting ของแท้ ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย และสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) ซึ่งส่วนมากจะเจอในสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน

  1. ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร

ปกติแล้วการจะพัฒนาเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย หรือเครื่องใหม่ ๆ จะต้องมีการศึกษาคิดค้น และพัฒนาปรับปรุง เพื่อมีการเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย และที่สำคัญต้องมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัย ไม่ให้เกิดผลข้างเคียง หรือมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงให้ได้น้อยที่สุด แต่เมื่อผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควรอาจจะต้องให้คนไข้ต้องเสียทั้งเงิน เวลา และเสียความรู้สึกจนรู้สึกไม่คุ้มครับ 

  1. สัดส่วนผิดรูป หรือผิวไม่เรียบเนียน

นอกจากประสิทธิภาพของเครื่อง Coolsculpting แล้ว การทำให้ผลลัพธ์ออกดี ต้องคำนึงถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นหลัก ซึ่งต้องได้รับการฝึกอบรมด้านการออกแบบรูปร่าง หรือมีประสบการณ์ และผ่านการอบรมด้านการทำ coolsculpting มาโดยตรง เพื่อประเมินการรักษาได้อย่างตรงจุด ให้ข้อมูลที่ชัดเจน และเหมาะสมกับคนไข้แต่บุคคล จะทำให้ลดโอกาสเสี่ยงผิวไม่เรียบเนียน หรือสัดส่วนผิดรูปได้ครับ 

Scroll to Top
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า